เมื่อผมตั้งใจจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับน้องชาย

jirayoon

ผมเข้าร่วมกิจกรรม Kumon Achiever Program (KAP) โดยวางแผนที่จะเรียนวิชาคณิตศาสตร์ให้ถึงระดับ N90 (ลำดับอนันต์) ตอนสิ้นปี และตั้งเป้าไว้ว่าจะเรียนจบระดับสุดท้ายก่อนขึ้น ม. 5 ครับ (ก่อนเมษายน 2563)

ผมเริ่มเรียนคุมองตอน ป.5 เทอมหนึ่ง ตอนเข้าไปทำแบบทดสอบวัดระดับ ผลออกมาผมต้องเริ่มต้นเรียนที่ระดับ 2A (บวกเลขหลักเดียว) หรือเนื้อหาประมาณอนุบาล 3 ตอนนั้นผมและคุณแม่ก็ตกใจเหมือนกัน ถึงผมจะเรียนอยู่ในระดับปานกลาง แต่ก็ไม่น่าจะเริ่มต้นต่ำขนาดนี้ แต่เมื่อคุณครูอธิบายให้เข้าใจว่า “การเรียนคุมองคือการสร้างพื้นฐานให้แน่นเพียงพอที่จะเรียนเนื้อหามัธยมปลายได้อย่างราบรื่น” ทำให้พวกเราตัดสินใจสมัครเรียน

 

เริ่มแรกก็ง่ายๆ ครับ ทำได้สบาย แต่พอเริ่มขึ้นเรื่องคูณหาร เริ่มรู้สึกว่าใช้เวลานานขึ้น และพอทำเรื่องเศษส่วนในระดับ E และ F ผมก็รู้เลยว่า การหา ค.ร.น. และ ห.ร.ม. มาจากทักษะการคูณหารล้วนๆ เพราะผมทำได้ดีขึ้นเมื่อเทียบกับก่อนที่จะมาเรียนคุมอง และจากการฝึกฝนทำทุกๆ วันอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผมมีความรับผิดชอบและเริ่มจัดการเวลาได้ดี ผลการเรียนที่โรงเรียนก็ดีขึ้น จากเดิมที่ได้เกรดเฉลี่ยประมาณ 2 กว่าๆ ก็ได้วิชาคณิตศาสตร์ที่ได้เกรด 4 มาช่วย ผมเข้าใจแล้วว่าพื้นฐานนั้นมีความสำคัญอย่างไร และการฝึกฝนจนชำนาญนั้นส่งผลอย่างไร เมื่อก่อนเวลาทำข้อสอบ หลายครั้งที่เนื้อหาในข้อสอบนั้นไม่ได้ยากมาก ผมสามารถทำได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือผมทำไม่ทัน ซึ่งเป็นเพราะผมขาดความชำนาญนั่นเอง ถ้าผมได้เริ่มเรียนคุมองเร็วกว่านี้ก็คงดี ผมมีน้องชายซึ่งอายุห่างกัน 6 ปี ผมเลยอยากให้น้องข้าวกล้องเริ่มเรียนคุมองตั้งแต่เขายังเล็ก ข้าวกล้องเรียนคุมองหลังจากผมในปีถัดมา ตอนอนุบาล 2 น้องผมเริ่มต้นเรียนที่ระดับ 6A (ลำดับตัวเลข) เขาสนุกกับการเรียนและมีพัฒนาการที่ดี แน่นอนครับผลการเรียนที่โรงเรียนของเราทั้งสองพัฒนาขึ้นมามากจนอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ผมสามารถสอบเข้าเรียน ม.1 โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัยได้ใน 2 ปีถัดมา

 

 

เมื่อมาเรียนในโรงเรียนใหม่ สภาพแวดล้อมใหม่ ตารางเวลาใหม่ ผมต้องปรับตัวอย่างมาก เนื้อหาที่เรียนที่คุมองก็ยากขึ้น เพราะผมเริ่มเรียนเกินชั้นเรียนแล้ว ระดับ G (จำนวนบวกและจำนวนลบ นิพจน์พีชคณิต และสมการเชิงเส้น) ที่หลายคนบอกว่าง่ายแต่ผมกลับว่ายาก ผมใช้เวลาเกือบ 1 ปีกว่าจะเรียนจบระดับ G หลายครั้งที่แอบคิดที่จะหยุดเรียน แต่ด้วยความที่ผมช่วยคุณแม่ดูแลน้องทำการบ้านมาตลอด พอเห็นน้องข้าวกล้องพยายามทำระดับ B (บวกลบแนวตั้ง) ซึ่งเป็นเนื้อหาเกินชั้นเรียนของน้อง แล้วน้องก็เริ่มอิดออด ผมก็ต้องให้กำลังใจน้อง บอกน้องว่าสิ่งที่เขาพยายามมันมีเป้าหมายนะ เขาเก่งขึ้นใช่ไหม เอาไปใช้ที่โรงเรียนได้ด้วยใช่ไหม ฉะนั้นการเรียนคุมองมีประโยชน์ต่อข้าวกล้องใช่ไหม แล้วน้องก็ทำต่อไป แต่ทุกอย่างที่ผมสอนน้องมันย้อนกลับมาเตือนผมเองว่ากำลังทำอะไรอยู่ ผมสอนน้อง ให้กำลังใจน้อง แล้วผมล่ะจะทำอย่างไรต่อไป ความท้อแท้ที่เกิดขึ้นถ้าผมยอมแพ้และหยุดเรียน คงเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับน้องชายผมเป็นแน่ ฉะนั้นผมต้องเป็นต้นแบบที่ดีให้เขา เพราะถ้าไม่ใช่ผมแล้วใครจะทำ หลังจากวันนั้นผมขอคุยกับคุณครูที่ศูนย์ว่าผมมีปัญหาอะไร มีกิจกรรมที่โรงเรียนมากในช่วงไหนบ้าง และผมควรวางแผนการเรียนอย่างไร คุณครูให้โอกาสผมได้ลองวางแผนการเรียนคุมองด้วยตนเอง ให้จัดแบบฝึกหัดเองว่าจะเรียนชุดไหน ทำซ้ำชุดไหนที่ผมยังไม่ชำนาญ โดยคุณครูจะคอยเป็นที่ปรึกษาอย่างใกล้ชิด ผมจึงสามารถผ่านระดับ G ไปได้ พอขึ้นระดับ H เรื่องสมการ ฟังก์ชันและกราฟ ผมเริ่มที่จะสนุกกับการเรียนและสามารถเรียนจบระดับ H ถึง K (เนื้อหาประมาณ ม.2-ม.4) ได้ตามแผนที่วางไว้คือก่อนจบ ม.3 จากระดับ J และ K ที่ได้ฝึกเรื่องการแยกตัวประกอบ ฟังก์ชั่น และกราฟต่างๆ ทำให้ผมเรียนต่อระดับ L ได้อย่างสบาย ผมชอบระดับนี้มาก ผมสนุกในการทำแคลคูลัส ลิมิต และ อนุพันธ์

 

เมื่อปีที่แล้ว (ม.2 เทอม2) ผมเคยลองไปสอบคณิตศาสตร์โอลิมปิกดูครับ ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ดี ผมได้เจอโจทย์ที่หลากหลาย มีโจทย์หลายข้อที่ลักษณะเหมือนกับที่ผมเรียนมาแล้วจากคุมอง และอีกหลายข้อที่ผมเห็นในวันนั้นเหมือนกับเนื้อหาที่ผมเรียนในระดับ M (ฟังก์ชั่นตรีโกณมิติ สมการเส้นตรง และสมการวงกลม) ในตอนนี้ ปีหน้าผมว่าผมจะไปสอบแข่งขันเพื่อหาประสบการณ์อีก ตอนนี้นอกจากช่วยสอนการบ้านน้องแล้ว ผมยังช่วยติวเพื่อนๆ ที่โรงเรียนอีกด้วย มันเป็นความภูมิใจเล็กๆ ของผมครับ เมื่อผมเห็นสีหน้าของคนที่ผมได้สอน ได้อธิบายในสิ่งที่เขาทำไม่ได้หรือไม่เข้าใจ ให้เขาสามารถเข้าใจและทำได้ด้วยตนเอง รอยยิ้มของพวกเขาเหล่านั้นปรากฏขึ้นหลังจากคำอุทานเบาๆ ว่า “อ๋อ! … เข้าใจแล้ว” มันเป็นช่วงเวลาที่ดีมากๆ ครับ ในอนาคตผมอยากเป็นครูที่สามารถถ่ายทอดความรู้และสร้างความเข้าใจให้กับเด็กๆ

ปัจจุบันผมเรียนอยู่ระดับ M100 และด้วยกิจกรรม KAP (Kumon Achiever Program) ที่จัดขึ้นในช่วงนี้ ผมได้วางแผนร่วมกับคุณครูที่ศูนย์ว่าจะจบระดับ M และเรียนให้ถึงระดับ N90 (ลำดับอนันต์) ภายในสิ้นปีนี้ และจะเรียนจบระดับ O (อนุพันธ์ขั้นสูง การประยุกต์แคลคูลัสเชิงอนุพันธ์ และสมการเชิงอนุพันธ์) ซึ่งเป็นระดับสุดท้ายก่อนเดือนเมษายนปีหน้า ผมจะเป็น Completer ก่อนขึ้น ม. 5 ครับ ส่วนน้องชายคนเก่งของผมตอนนี้อยู่ ป. 4 ทำคุมองระดับ G ระดับที่ผมเคยเบื่อที่สุด ผมจะคอยเป็นกำลังใจให้น้อง และจะสนับสนุนให้เขาจบระดับสุดท้ายภายในมัธยมต้นให้ได้

 

ผมขอเป็นกำลังใจให้น้องๆ ทุกคนที่กำลังเพียรพยายามอย่างหนัก เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้นะครับ แล้วพบกันในงาน ASF 2020 ครับ (งานมอบรางวัลนักเรียนคุมองดีเด่นประจำปี 2020)

 

พี่ไตเติ้ล ปภังกร ปราณีชัย (เรียนคุมองวิชาคณิตศาสตร์ระดับ M) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย

อ่านเรื่องราวความประทับใจอื่นๆ ได้ที่นี่

ถ้าผมไม่คิดที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ผมคงไม่ได้ใส่เสื้อตัวนี้

ผมก็เหมือนเด็กมัธยมต้นทั่วไป การเรียนอยู่ระดับปานกลาง ซึ่งผมก็ไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไร แต่ตอนสอบเข้าเรียนต่อม.4 นั่นคือจุดเปลี่ยนของผม

คุมองเป็นการเรียนเฉพาะตัว ไม่ต้องแข่งกับคนอื่น แต่แข่งกับตัวเอง

ด้วยความเป็นคุณครูอนุบาล เราพบเสมอว่าพอเปิดเทอมลูกศิษย์ส่วนใหญ่จะลืมสิ่งที่ได้เรียนไปเมื่อเทอมก่อน เด็กนั้นจะต้องได้รับการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง ไม่เช่นนั้นก็จะลืม!

การฝึกฝนทุกวันเป็นสิ่งสำคัญ

ด้วยความเป็นคุณครูอนุบาล เราพบเสมอว่าพอเปิดเทอมลูกศิษย์ส่วนใหญ่จะลืมสิ่งที่ได้เรียนไปเมื่อเทอมก่อน เด็กนั้นจะต้องได้รับการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง ไม่เช่นนั้นก็จะลืม!